วิธีทำขนมดอกจอกสูตรโบราณ ง่ายๆเพียง 4 ขั้นตอน! สูตรไม่อมน้ำมัน หอมกรอบอร่อยมาก

ขนมดอกจอก เป็นขนมไทยโบราณ ที่ไม่ใครก็ติดใจหากได้ลิ้มรส ซึ่งขนมดอกจอกจะหวานกรอบหอมอร่อยด้วยรสชาติของกะทิเข้มข้น งาดำหอมๆ นั่นเองค่ะ อีกทั้งทำได้ไม่ยาก ด้วยสูตรวิธีทำขนมดอกจอกง่ายๆที่บ้าน ทำขายก็ได้ ทำกินเองก็ดีเลิศ สูตรขนมดอกจอกที่ไม่อมน้ำมัน เก็บไว้ทานได้หลายวัน ทำง่ายๆเพียง 4 ขั้นตอน สูตรเข้าใจง่าย ไม่ยุ่งยาก แถมยังอร่อย หลานกำลังดี หวานไม่มาก ทานได้ทุกเพศทุกวัยเลยก็ว่าได้ หากพร้อมแล้ว เตรียมส่วนผสมในการทำขนมดอกจอก และพิมพ์ขนมดอกจอก แล้วมาลงมือทำกันตามสูตรขนมดอกจอกด้านล่างนี้กันเลยค่ะ

ส่วนผสมในการทำขนมดอกจอก

  1. แป้งข้าวเจ้า                  100             กรัม
  2. แป้งมัน                        100             กรัม
  3. แป้งสาลีอเนกประสงค์    50              กรัม
  4. ไข่แดง                         2                ฟอง
  5. น้ำตาลทราย                 3                ช้อนโ ต๊ะ
  6. หัวกะทิ                        200             มิลลิลิตร
  7. เกลือป่น                       2                ช้อนชา
  8. น้ำปูนใส                      150             มิลลิลิตร
  9. น้ำมันพืช                     1                 ช้อนโต๊ะ
  10. งาดำ                       1                ช้อนโต๊ะ

 

วิธีทำขนมดอกจอก

  1. ร่อนแป้งทั้ง 3 ชนิด และผสมเข้าด้วยกัน ใส่น้ำตาลทราย เกลือ ผสมของแห้งให้เข้ากันก่อน
  2. ใส่กะทิลงไปนวดแป้ง จากนั้นใส่ไข่แดง น้ำมันพืช และน้ำปูนใส คนให้เข้ากัน จนได้น้ำแป้งเนื้อเนียน
  3. ใส่งาลงไปคนผสมเป็นอันดับสุดท้าย ก่อนนำไปทอด เพื่อป้องกันงาบวมน้ำ
  4. ใส่น้ำมันในกระทะสำหรับทอด ใช้ไฟค่อนข้างอ่อน พอน้ำมันร้อนนำพิมพ์ดอกจอกจุ่มน้ำมันจนพิมพ์ร้อนจัด ยกพิมพ์ขึ้นจากน้ำมัน เช็ดน้ำมันกับกระดาษซับก่อน แล้วจึงจุ่มลงน้ำแป้ง หากแป้งข้นเกินไป อาจเติมน้ำเปล่าเล็กน้อย พอแป้งติดพิมพ์ก็นำจุ่มลงในน้ำมัน ทอดจนแป้งออกจากพิมพ์ ทอดต่อจนเหลือง ตักขนมขึ้นพักให้สะเด็ดน้ำมัน นำขึ้นวางบนกระดาษซับน้ำมัน พักไว้ให้ขนมเย็นสนิท ก็พร้อมเสริฟแล้วค่ะ